ความปลอดภัยและการปกป้องคุ้มครอง เพื่อเด็กทุกคน

ความช่วยเหลือที่คุณกำลังจะมอบให้แก่เด็ก ๆ สามารถเปลี่ยนชีวิตของเขาทั้งชีวิต
ปกป้องเด็กให้รอดพ้นจากความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรคภัยและการถูกทำร้าย พร้อมสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรง

โอกาสเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ไปโรงเรียน

เด็กกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ในปี พ.ศ.2548 ได้มีการจัดการสำรวจโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้การสนับสนุนของยูนิเซฟ พบว่า เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่มากกว่า 1,000 คนที่อาศัยตามหุบเขาของจังหวัดไม่ได้เรียนหนังสือหรือไม่เคยเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา เพราะโรงเรียนนั้นอยู่ไกลเกินไป พ่อและแม่จึงให้พวกเขาอยู่บ้าน เด็ก ๆ จึงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนชื่อตัวเองไม่ได้ และคิดเลขพื้นฐานไม่เป็น  การค้นพบครั้งนี้นำไปสู่การสำรวจในเขตอื่น ๆ ตามมา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาคล้ายกันทั้งหมด ซึ่งคาดว่า ทั่วประเทศ มีเด็ก ๆ ราว 600,000 คน อายุระหว่าง 3-17 ปียังตกหล่นจากการศึกษา 

“โรงเรียนหย่อมบ้าน” โครงการที่นำการศึกษาที่มีคุณภาพไปสู่เด็กในพื้นที่ห่างไกล

จากการสำรวจพบว่า 1 ใน 4 ของเด็กอายุ 6 ขวบในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ โรงเรียนห้วยปลากั้งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาใน อ.แม่สะเรียง นั้นเป็นห้องเรียนที่เด็ก ๆ สามารถเดินทางไปเรียนได้ใกล้ที่สุด การที่ชุมชนอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ประกอบกับการไม่มีถนนเข้าออกที่สะดวก ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการเข้าไปปลูกสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก บ้านของเด็กหญิงรินลดาวัย 7 ขวบ และณัฐติกาวัย 9 ขวบ อยู่เข้าไปในป่าลึก ไกลจากที่เรียนที่ใกล้ที่สุดถึง 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ไกลเกินกว่าที่เด็กตัวเล็ก ๆ จะเดินไปห้องเรียนเองได้ทุกวัน 

เพื่อมอบโอกาสที่เท่าเทียมกันให้แก่เด็กทุกคน ยูนิเซฟจึงนำการศึกษาไปสู่เด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ภายใต้โครงการ “ห้องเรียนหย่อมบ้าน” ร่วมกับหน่วยงานการศึกษาและชุมชน  ในระยะเริ่มแรก อาคารเป็นเพียงห้องเรียนที่ทำด้วยพื้นไม้กระดาน ผนังไม้ไผ่ และหลังคาดีบุก แต่มันได้มอบสิ่งที่เด็ก ๆ ในพื้นที่ไม่เคยได้รับมาก่อน นั่นก็คือ การเรียนระดับประถมศึกษา นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังสนับสนุนเงินเดือนครูชนเผ่าอีกด้วย ครูถวิลเป็นหนึ่งในคุณครูที่ยูนิเซฟสนับสนุนเงินเดือนและเป็นฮีโร่ของเด็ก ๆ เขาขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในป่าลึกทุกวันจันทร์เพื่อรับเด็ก ๆ จากที่บ้าน และกลับไปส่งทุกเย็นวันศุกร์ ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้งก็กินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

ปัจจุบัน มีครูที่อยู่ในโครงการ “โรงเรียนหย่อมบ้าน” มากกว่า 42 คนที่กำลังสอนเด็ก ๆ กว่า 1,000 คน ณ ห้องเรียนหย่อมบ้าน 41 แห่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำเนินโดยกระทรวงการศึกษา ภายใต้การสนับสนุนของการยูนิเซฟ

เด็กทุกคนมีสิทธิทางการศึกษา

ยูนิเซฟเชื่อว่า เราสามารถช่วยให้เด็กทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของคุณ เด็กทุกคนจะมีอนาคตที่สดใส ด้วยการได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำในสังคม ขณะนี้ มีเด็ก ๆ กว่า 1.4 ล้านคนในประเทศไทยยังมีชีวิตอยู่อย่างยากจน 

การมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลโดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานหรือสัญชาติ ผ่านโครงการต่าง ๆ ของยูนิเซฟจะช่วยให้เด็ก ๆ ที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ

โปรดบริจาคเงินเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่เด็กทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกที่กำลังต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด 

บริจาคเพียง 17 บาท ต่อวัน

คุณสามารถเปลี่ยนชีวิตของเด็กทั้งชีวิตได้

ร่วมใจกัน เพื่อส่งพลังการช่วยเหลือให้มากยิ่งขึ้น!

คน ภายในองค์กร

“สามารถสนับสนุนเป็นเงินเดือนของครูที่สอนตามหุบเขาได้เป็นเวลา 5 เดือน”*

เด็กๆและครูชาวเผ่า ณ โรงเรียนหย่อมบ้าน
ครูถวิล ฮีโร่ของเด็กๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ 2 ชั่วโมงเพื่อไปรับพวกเขาที่บ้าน
เด็กๆ ทุกวัยออกกำลังกาย เต้นรำ และร้องเพลงในห้องเรียนเดียวกัน เนื่องจากทรัพยากรที่มีจำกัดในโรงเรียนชาวเขา
เด็กๆในช่วงเช้า ก่อนเข้าห้องเรียนหย่อมบ้าน
Previous
Next

ยูนิเซฟเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ และผู้นำในด้านการส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองสิทธิของเด็กทั่วโลก ซึ่งดำเนินงานอยู่ใน 190 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้เด็กทุกคน สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น ตลอดเวลากว่า 70 ปีตั้งแต่ที่ยูนิเซฟเริ่มงานในประเทศไทย ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กในประเทศพัฒนาไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสุขอนามัยและโภชนาการ จนถึงการจัดหาน้ำดื่มสะอาดและบริการด้านสุขอนามัยในชนบท แต่ในขณะเดียวกัน ความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เด็ก ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป การทำงานของยูนิเซฟในประเทศไทยจึงต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ปัจจุบันโครงการของเราได้ขยายและครอบคลุมถึงด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย สุขภาพและการมีส่วนร่วมของวัยรุ่น การศึกษาที่มีคุณภาพ และการปกป้องคุ้มครองเด็กทุกคน

*ยูนิเซฟเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 315 ของประกาศกระทรวงการคลัง เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

*เนื่องจากหลักการของยูนิเซฟ คือ การเร่งตอบสนองต่อความต้องการอย่างแท้จริง ในบางกรณี เราจึงมีความจำเป็นต้องนำเงินบริจาค ไปใช้ในโครงการซึ่งมีความต้องการเร่งด่วนกว่าในขณะนั้น ขอให้คุณมั่นใจได้ว่า การสนับสนุนจากคุณกำลังช่วยเหลือเด็ก ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกอย่างแท้จริง 

ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่

หรือโทรปรึกษา

+66-2012-5198